[รีวิว]Champion of Anteria สู่ชัยชนะแห่งแอนทีเรีย!

Ubisoft Blue Byte ส่งผลงานใหม่ออกมาอีกแล้วหลังจากเงียบไปปั่นเกมออนไลน์ที่กำลังจะปิดตัวในไม่กี่วันนี้อย่าง The Settler Online ไป มาคราวนี้เป็นเกมที่อดีตเคยเป็นเพียงโปรเจคต์ The Settler ภาค Spin-off แยกพิเศษมาก่อน แต่ก็ได้กลายมาเป็นเกมวางแผน RPG ลง PC ในเวลาต่อมา พบกับ 'Champion of Anteria' ที่วันนี้เราจะมารีวิวกัน ต้องขอขอบคุณทาง Ubisoft SEA ที่ใจดีส่งคีย์มาให้เราได้รีวิวกันด้วยครับ

พัฒนาโดย : Ubisoft Blue Byte

จัดจำหน่ายโดย : Ubisoft

ราคา : 899 บาท

ลงเฉพาะ PC

Champion of Anteria เป็นเกมวางแผนผสมกลิ่น RPG เล็กๆ ที่จะให้เราได้รับบทเป็นฮีโร่ที่อาสาลุกขึ้นมาปกป้องดินแดน Anteria พบกับสามอัศวิน สามธาตุ อัศวินเหล็ก มือธนูธรรมชาติ และนักบุญสายฟ้า ทั้งสามคนก็มีธาตุและความสามารถแตกต่างกันไป หน้าที่ของพวกเขาก็คือกอบกู้ Anteria ปราบวายร้ายตามทาง แล้วทำให้ดินแดน Anteria กลับมาสงบสุขอีกครั้งให้ได้!

Champion of Anteria โดยรวมแล้วตัวเกมแยกออกเป็นสองส่วนด้วยกัน ส่วนนึงคือส่วนต่อสู้ที่จะต้องเลือกและควบคุมเหล่าฮีโร่ทั้งสามที่เราสามารถส่งลงสนามได้ ซึ่งเราก็จะต้องตะลุยฝ่าศัตรูมากมายตั้งแต่โจรข้างทางยันโกเลมหินยักษ์ ทำเป้าหมายที่ตัวเกมมอบให้ตั้งแต่ช่วยซ่อมป้อมกันฐานยันไล่ฆ่าปีศาจหายาก ระหว่างเล่นภารกิจก็จะมีเป้าหมายเสริมที่เพิ่มมาให้เราตัดสินได้ว่าจะทำหรือไม่ทำดี ถ้าทำก็อาจจะได้รางวัลหรือแม้แต่ผู้ช่วยเพิ่ม แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเกม โดยรวมแล้วถือว่าตัวเกมมอบเป้าหมายให้หลากหลายดีครับ เล่นแล้วคงจะไม่เบื่อไปอีกพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว



ระบบต่อสู้เองก็กำลังมาได้ดีไม่แพ้กัน ตัวเกมเป็นแนว RPG ตีอัติโนมัติ ดังนั้นหน้าที่เรานั้นมีเพียงแค่สั่งการอัศวินของเราไปไล่ตีศัตรูเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องออกแรงเองเหมือนเกม Action-RPG แต่กระนั้นมันก็ไม่ใช่เกมที่เราแค่ต้องนั่งมองดูตัวละครเราไล่ตีศัตรูอย่างเดียว เราจำเป็นที่จะต้องกดใช้ Skill ให้กับตัวละครของเราด้วย อาทิอัศวินที่จะมีท่าพุ่งสามารถน็อคศัตรูให้ลงไปนอนพื้นได้ เราจำเป็นต้องกดใช้เองครับ AI ตัวละครจะไม่ทำงานในจุดๆ นี้ ทำให้เราได้ความรู้สึกว่าจำเป็นต้องมีปฏิกิริยา วางแผนว่าจะใช้สกิลไหนให้เหมาะกับสถานการณ์ตลอดเวลา



ระบบธาตุในเกมเองนั้นก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบใหญ่หลักๆ ตัวนึงของเกมเลย ตัวเกมมี 5 ธาตุด้วยกันนั่นคือธรรมชาติ ไฟ น้ำ เหล็ก และสายฟ้า แต่ละธาตุก็จะแพ้-ชนะแตกต่างกันไป อาทิสายฟ้าชนะน้ำ นั่นหมายถึงน้ำจะโจมตีสายฟ้าแทบจะไม่เข้า ส่วนสายฟ้าก็จะโจมตีใส่น้ำแรงกว่าเดิมเป็นสองเท่า เป็นต้น ระบบธาตุตัวนี้แหละที่จะทำให้เราต้องหาทางรับมือสถานการณ์ตรงหน้าที่ตัวเกมตัดสินใจโยนใส่ตลอดเวลา ฮีโร่ตัวไหนที่เจอศัตรูกลุ่มนึงที่มีแต่ธาตุที่ตนแพ้ก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษหน่อย เป็นระบบที่เพิ่มไดนามิคให้กับเกมเป็นอย่างมากเลยล่ะ

ต่อสู้ ชนะแล้วไปไหนต่อล่ะ? พบกับโหมดต่อไปที่เราจะมาพูดถึงกันนั่นคือโหมดสร้างฐาน นี่ไม่ใช่เกมที่เน้นสร้างฐานเหมือนเกมแนว RTS อาทิ Company of Heroes หรือ Warcraft แต่ออกจะเหมือนตามเกมเล่นฟรีในโทรศัพท์เสียมากกว่า หลังจบภารกิจเราก็จะได้ทรัพยากรที่มีตั้งแต่หิน น้ำ ไม้ ไฟ เวทย์ที่จะผลิตผ่านสิ่งก่อสร้างที่เราสร้างในเกม เราสามารถใช้ทรัพยากรที่หมู่บ้านผลิตมาให้เรานี้ไปพัฒนาตนเอง คราฟยา ทำอาวุธให้แข็งแกร่งขึ้นได้ ไม่ซับซ้อนอะไรเลยครับ ขอแค่อ่านรายละเอียดว่าสิ่งก่อสร้างไหนเข้ากับอันไหนไม่ได้ให้ชัดเจนก็พอ เป็นเสมือนระบบพักเหนื่อยเตรียมตัวซะมากกว่า ถ้าทำได้ซับซ้อนกว่านี้นิดนึงไม่ทิ้งกลิ่นเกมออนไลน์โทรศัพท์หนักขนาดนี้คงจะสนุกไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว



หน้าที่ของเราหลักๆ นั้นก็คือต้องขยายดินแดนตัวเองไปเรื่อยๆ ก็จริง แต่บางครั้งศัตรูก็จะสวนเรากลับ บุกดินแดนที่เรายึดมาได้ก่อนหน้านี้เช่นกัน นี่ทำให้ตัวเกมไม่จบอย่างรวดเร็วจนเกินไป และมีอะไรให้ทำตลอดเวลา ตัวเกมยังมีระบบสกิลที่เราจำเป็นต้องอัพเพื่อปลดล็อคสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ พื้นที่สร้างเมืองใหม่ๆ และอีกมากมายหลายระบบยิบย่อยที่ทำให้ Champion of Anteria ดูหลากหลายในแนวทางการเล่น



กราฟิคในเกมก็ถือว่าพอถูไถไปได้ ด้วยกราฟิคการ์ตูนเบาตา เล่นแล้วเบาหัวเหมือนเกมอินดี้ดี ปัญหาคือดัน Optimize ได้ค่อนข้างแย่ถึงแย่ที่สุด GTX 750 ผมมิอาจรับมันได้ทั้งที่ผมเองก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลประการใด กราฟิคก็ไม่ได้ดูดเครื่องเหมือน AAA ขนานหนัก แต่ทั้งเกมผมรันได้แค่ 40 FPS เท่านั้น นี่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเกมเพราะกราฟิคระดับนี้ผมน่าจะเล่นได้อย่างไม่มีปัญหาจริงๆ มากกว่า

อีกข้อเลยคือบัคบานครับ ...อย่างน้อยก็ช่วงเริ่มเกมอ่ะนะ บางครั้งเหตุการณ์อีเวนท์ในเกมที่ถูก Script เอาไว้นั้นจะไม่ทำงาน ทำให้เราอาจจะได้เห็นตัวละครยืนเอ๋อไม่ยอมทำตามคำสั่ง เกมค้างหลุด และอีกมากมายสาธยายไม่หมด ผมเจอบัคนี้ทันทีที่ผมกดเข้าเกม นับว่าเป็นประสบการณ์แรกที่แย่เอาเรื่องเลยทีเดียว



ในระยะยาวเองนั้นตัวเกมก็ไม่ค่อยมีอายุมากนัก อย่างที่บอกว่าดีไซน์มันดูทำมา เหมือนต้องการจะเป็นเกมฆ่าเวลา มากกว่าจะเป็นเกมที่เล่นแล้วติดจริงจังเลิกไม่ได้เป็นวัน เมื่อผู้เล่นลองไปสัก 5 ชั่วโมง เชื่อเลยว่าจะต้องมีแอบเบื่ออย่างแน่นอน เบื่อสกิลที่ปลดล็อคค่อนข้างช้า เบื่อหน้าตาศัตรูที่ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่ เบื่อภาพในเกมที่เริ่มจะสูญเสียเสน่ห์ และสุดท้ายก็เบื่อมันทั้งเกม นี่ทำให้ราคา 899 บาทที่แปะหน้าร้านค้านั้นเป็นปัจจัยที่น่าคิดหนัก

แต่ไม่ๆ ผมไม่ได้พยายามบอกว่าเกมมันแย่หรือไม่คุ้มค่า 899 บาท ผมพยายามบอกว่าตัวเกมนั้นจะสูญเสียคุณค่าในความอยากเล่นภายในไม่กี่ชั่วโมงต่างหาก ข้อหลักๆ ก็คงจะเป็นเพราะดีไซน์ของเกมนั่นแหละ ทำให้มันเป็นเกมที่เล่นจบก็ไม่อยากจะมาหยิบเล่นซ้ำอีกเลยเป็นเวลาหลายสิบปี เหมือนกับหลายๆ เกมในปัจจุบัน เล่นแล้วสนุก แต่พอจบก็ไม่อยากงมมาเล่นอีกครั้งนั่นแหละ