[Review] The Tape : Blair Witch ในคราบวิดีโอเกมส์.
หลายๆคนน่าจะรู้จักหนังเรื่อง Blair Witch (2016) ที่เพิ่งฉายโรงไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นภาคต่อของ The Blair Witch Project (1999) หนังผี found footage ที่ดูแล้วสยองและเวียนหัวมากๆ ครั้งนี้ความน่ากลัวในแบบนั้นกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของเกมที่มีกลิ่นอายแบบ Blair Witch ในชื่อ The Tape
The Tape อาจจะไม่ใช่เกมผีที่เล่าเรื่องสไตล์ found footage เกมแรก และ ผลิตโดยค่ายโนเนมอย่างค่าย Kazakov Oleg แต่เรื่องอะไรที่เราเลือกที่จะเอาเกมนี้มาเล่าให้ฟัง? เรามาหาคำตอบกันได้เลย .
The Tape เริ่มเรื่องมาด้วยความ horror cliche อย่างสุดขีด ด้วยการปูสตอรี่มาว่ามีคนหายและตัวเราก็ทำหน้าที่เป็นนักสืบไปตามหาคนหายคนนี้ในบ้านร้างกลางป่าแห่งนึง ช่างเป็นพล็อตที่คลิเช่(ธรรมดาๆเชยๆ)สุดๆ ซึ่งมันมีจุด twist ที่ทำให้ผู้เล่นอย่างเราๆเหวอ อ้าปากค้างยาวๆได้เลย แต่ค่ายเกมก็เลือกที่จะเฉลยมันในทั้งตัวอย่างและภาพ screenshot ซะงั้น.. แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของเกมเสียหายเลย เพราะตลอดเวลาที่เล่นเกมนี้เราจะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่เกิดขึ้นมาจากหลายๆปัจจัยที่เกมสร้างขึ้นอย่าง บรรยกาศสุดน่าอึดอัด , การทำให้ภาพเป็น home video , การไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นบ้างทำให้เรารู้สึกอึดอัดสุดๆ
แน่นอนว่าเกมแบบนี้จะขับเคลื่อนเราจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอยู่เสมอ โดยเกมนี้เริ่มต้นด้วยการพูดถึงคดีคนหายในบ้านร้างธรรมดา แถมยังโชว์ฟูตเทจที่ฆาตกรฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยมด้วย ทำให้เรารู้สึกมั่นใจแล้วว่า อ๋อ มันต้องเป็นแนว suspense แน่นอน จากนั้นเกมก็พาเราไปเจอการมีอยู่ของลัทธิอะไรบางอย่างในชั้นใต้ดินของบ้านหลังนี้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห่าไรกับการหายตัวไปของหญิงสาวเลย แต่ด้วยความที่ว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในที่เดียวกันก็ทำให้ตัวเอกของเราตกกระไดพลอยโจนไปซะอย่างงั้น แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่ได้ออกทะเลหรืออะไรเลย เพราะเกมก็ยังทำหน้าที่สร้างความสงสัยให้กับผู้เล่นอยู่เรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น ทำให้เรารู้สึกว่าสตอรี่ของเรื่องนี้มันไม่ได้เลี้ยวซ้ายหรือขวาแต่มันเป็นทางเส้นตรงที่ถามคำถามใส่ผู้เล่นตลอดการเดินทางมากกว่า
ซาวด์ของเกมนี้ถือเป็นตัวชูโรงหลักๆเลยเพราะมันน่ากลัวมากกกกกกกก เสียงเปียโนนิ่มๆ หรือเสียงกล้อง home video ซ่าๆ เคล้ากันไปทำให้เราขนลุกไปตลอดการเล่นจริงๆ หรือแม้กระทั่งบางช่วงที่ดนตรีแบบหนังนักสืบ suspense เลย มันก็ยังมีความน่ากลัวอยู่อย่างชัดเจนมากๆ , เกมนี้เป็นเกมผีที่เรานับถือเทคนิคการเล่าของมันมากๆ มันทำให้เกมน่ากลัวได้โดยที่ไม่มี jumpscare ดาดๆเหมือนเกมผีทั่วไปเลย ถือว่าใจถึงมากๆ เพราะถ้าเกมมันไม่น่ากลัว มันจะพังเลย แต่ด้วยความใจถึง และ ของถึง ของทางทีมงานก็ทำให้เกมมันน่ากลัวในตัวของมันเองโดยไม่ต้องพึ่งลูกไม้ตื้นๆแบบ jumpscare เลย
*ย่อหน้านี้มีสปอย*
เกมแบ่งองค์แรกและองค์หลังได้อย่างชัดเจนมากๆ ในช่วงแรกของเกมนั้น ตัวเกมขับเคลื่อนด้วยคำถามต่างๆที่ถาโถมเข้ามาอย่าง หญิงสาวที่หายตัวไปอยู่ไหน ทำไมใต้ดินถึงมีลัทธิสุดประหลาดนี้อยู่ ฆาตกรมีแรงจูงใจอะไร หรืออะไรแบบนี้ให้เราตั้งคำถามกับตัวเอง พอเราเริ่มได้คำตอบสำหรับสิ่งต่างๆแล้วเกมจะพาเรามาสู่จุดที่เราไม่ต้องตั้งคำถามอะไรอีกแล้ว เกมเลือกที่จะลงลึกไปในจิตใจของตัวละครแทน จากหน้าที่และความอยากรู้อยากเห็นที่ทำให้ทั้งเราและตัวละครตั้งคำถามว่านี่มันเกิดเ*ี้ยอะไรขึ้น กลายเป็นการพยายามที่จะหลีกหนีจากคำตอบแทน ซึ่งทำได้ดีมากๆ เรารู้สึกความรู้สึกของสถานการณ์นั้นจริงๆ ที่ความอยากรู้อยากเห็นมันไม่สำคัญอีกแล้ว ขอเอาชีวิตรอดก่อนนะ
สุดท้ายนี้เกมก็เลือกที่จะเล่าแบบ the show must go on แทน เพราะเกมแทบจะไม่ได้ตอบคำถามอะไรซักอย่างที่ตั้งมาในตอนแรกเลย เป็นเพียงฉากจบที่บอกว่าเหตุการณ์มันจบยังไง ซึ่งอารมณ์แบบนี้ทำให้เรานึกถึง The Blair Witch Project ที่ตั้งคำถามมาเยอะมากระหว่างทาง แต่ในบทสรุปมันก็เลือกที่จะให้คนดูไปคิดต่อกันเอาเอง หรือแม้กระทั่งการดูคลิปผีต่างๆใน youtube ที่เริ่มมาเป็นวัยรุ่นวิ่งกันหางจุกตูด ไม่บอกกล่าวอะไร แล้วก็ตั้งคำถามให้เราคนดูเยอะมากๆ ก่อนจะจบไปแบบไม่ตอบอะไรเลย เรียกได้ว่าเกมนี้ทำออกมาคาราวะอะไรพวกนี้ได้ดีมากๆ
ด้วยความที่ตอนนี้เกมมันเซลอยู่ในราคาเพียง 12 บาท ทำให้เราพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็น 12 บาทที่คุ้มค่ามากๆ หรือแม้กระทั่งราคาเต็ม 99 บาท ก็ยังคุ้มค่า เพราะเกมมี replay value ด้วย เพราะเกมไม่ได้มีตอนจบแบบเดียว! เรียกได้ว่าคุ้มมากๆสำหรับเกมราคาเท่านี้ สุดท้ายนี้ผู้หญิงที่หายตัวไปนั้นจะเป็นยังไง? ลัทธิที่อยู่ใต้ดินคืออะไร? คำถามนี้มันมีคำตอบหมดแล้วแหละ
มันคือจินตนาการของคุณนั่นเอง
The Tape อาจจะไม่ใช่เกมผีที่เล่าเรื่องสไตล์ found footage เกมแรก และ ผลิตโดยค่ายโนเนมอย่างค่าย Kazakov Oleg แต่เรื่องอะไรที่เราเลือกที่จะเอาเกมนี้มาเล่าให้ฟัง? เรามาหาคำตอบกันได้เลย .
The Tape เริ่มเรื่องมาด้วยความ horror cliche อย่างสุดขีด ด้วยการปูสตอรี่มาว่ามีคนหายและตัวเราก็ทำหน้าที่เป็นนักสืบไปตามหาคนหายคนนี้ในบ้านร้างกลางป่าแห่งนึง ช่างเป็นพล็อตที่คลิเช่(ธรรมดาๆเชยๆ)สุดๆ ซึ่งมันมีจุด twist ที่ทำให้ผู้เล่นอย่างเราๆเหวอ อ้าปากค้างยาวๆได้เลย แต่ค่ายเกมก็เลือกที่จะเฉลยมันในทั้งตัวอย่างและภาพ screenshot ซะงั้น.. แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของเกมเสียหายเลย เพราะตลอดเวลาที่เล่นเกมนี้เราจะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่เกิดขึ้นมาจากหลายๆปัจจัยที่เกมสร้างขึ้นอย่าง บรรยกาศสุดน่าอึดอัด , การทำให้ภาพเป็น home video , การไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นบ้างทำให้เรารู้สึกอึดอัดสุดๆ
แน่นอนว่าเกมแบบนี้จะขับเคลื่อนเราจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอยู่เสมอ โดยเกมนี้เริ่มต้นด้วยการพูดถึงคดีคนหายในบ้านร้างธรรมดา แถมยังโชว์ฟูตเทจที่ฆาตกรฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยมด้วย ทำให้เรารู้สึกมั่นใจแล้วว่า อ๋อ มันต้องเป็นแนว suspense แน่นอน จากนั้นเกมก็พาเราไปเจอการมีอยู่ของลัทธิอะไรบางอย่างในชั้นใต้ดินของบ้านหลังนี้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห่าไรกับการหายตัวไปของหญิงสาวเลย แต่ด้วยความที่ว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในที่เดียวกันก็ทำให้ตัวเอกของเราตกกระไดพลอยโจนไปซะอย่างงั้น แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่ได้ออกทะเลหรืออะไรเลย เพราะเกมก็ยังทำหน้าที่สร้างความสงสัยให้กับผู้เล่นอยู่เรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น ทำให้เรารู้สึกว่าสตอรี่ของเรื่องนี้มันไม่ได้เลี้ยวซ้ายหรือขวาแต่มันเป็นทางเส้นตรงที่ถามคำถามใส่ผู้เล่นตลอดการเดินทางมากกว่า
ซาวด์ของเกมนี้ถือเป็นตัวชูโรงหลักๆเลยเพราะมันน่ากลัวมากกกกกกกก เสียงเปียโนนิ่มๆ หรือเสียงกล้อง home video ซ่าๆ เคล้ากันไปทำให้เราขนลุกไปตลอดการเล่นจริงๆ หรือแม้กระทั่งบางช่วงที่ดนตรีแบบหนังนักสืบ suspense เลย มันก็ยังมีความน่ากลัวอยู่อย่างชัดเจนมากๆ , เกมนี้เป็นเกมผีที่เรานับถือเทคนิคการเล่าของมันมากๆ มันทำให้เกมน่ากลัวได้โดยที่ไม่มี jumpscare ดาดๆเหมือนเกมผีทั่วไปเลย ถือว่าใจถึงมากๆ เพราะถ้าเกมมันไม่น่ากลัว มันจะพังเลย แต่ด้วยความใจถึง และ ของถึง ของทางทีมงานก็ทำให้เกมมันน่ากลัวในตัวของมันเองโดยไม่ต้องพึ่งลูกไม้ตื้นๆแบบ jumpscare เลย
*ย่อหน้านี้มีสปอย*
เกมแบ่งองค์แรกและองค์หลังได้อย่างชัดเจนมากๆ ในช่วงแรกของเกมนั้น ตัวเกมขับเคลื่อนด้วยคำถามต่างๆที่ถาโถมเข้ามาอย่าง หญิงสาวที่หายตัวไปอยู่ไหน ทำไมใต้ดินถึงมีลัทธิสุดประหลาดนี้อยู่ ฆาตกรมีแรงจูงใจอะไร หรืออะไรแบบนี้ให้เราตั้งคำถามกับตัวเอง พอเราเริ่มได้คำตอบสำหรับสิ่งต่างๆแล้วเกมจะพาเรามาสู่จุดที่เราไม่ต้องตั้งคำถามอะไรอีกแล้ว เกมเลือกที่จะลงลึกไปในจิตใจของตัวละครแทน จากหน้าที่และความอยากรู้อยากเห็นที่ทำให้ทั้งเราและตัวละครตั้งคำถามว่านี่มันเกิดเ*ี้ยอะไรขึ้น กลายเป็นการพยายามที่จะหลีกหนีจากคำตอบแทน ซึ่งทำได้ดีมากๆ เรารู้สึกความรู้สึกของสถานการณ์นั้นจริงๆ ที่ความอยากรู้อยากเห็นมันไม่สำคัญอีกแล้ว ขอเอาชีวิตรอดก่อนนะ
สุดท้ายนี้เกมก็เลือกที่จะเล่าแบบ the show must go on แทน เพราะเกมแทบจะไม่ได้ตอบคำถามอะไรซักอย่างที่ตั้งมาในตอนแรกเลย เป็นเพียงฉากจบที่บอกว่าเหตุการณ์มันจบยังไง ซึ่งอารมณ์แบบนี้ทำให้เรานึกถึง The Blair Witch Project ที่ตั้งคำถามมาเยอะมากระหว่างทาง แต่ในบทสรุปมันก็เลือกที่จะให้คนดูไปคิดต่อกันเอาเอง หรือแม้กระทั่งการดูคลิปผีต่างๆใน youtube ที่เริ่มมาเป็นวัยรุ่นวิ่งกันหางจุกตูด ไม่บอกกล่าวอะไร แล้วก็ตั้งคำถามให้เราคนดูเยอะมากๆ ก่อนจะจบไปแบบไม่ตอบอะไรเลย เรียกได้ว่าเกมนี้ทำออกมาคาราวะอะไรพวกนี้ได้ดีมากๆ
ด้วยความที่ตอนนี้เกมมันเซลอยู่ในราคาเพียง 12 บาท ทำให้เราพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็น 12 บาทที่คุ้มค่ามากๆ หรือแม้กระทั่งราคาเต็ม 99 บาท ก็ยังคุ้มค่า เพราะเกมมี replay value ด้วย เพราะเกมไม่ได้มีตอนจบแบบเดียว! เรียกได้ว่าคุ้มมากๆสำหรับเกมราคาเท่านี้ สุดท้ายนี้ผู้หญิงที่หายตัวไปนั้นจะเป็นยังไง? ลัทธิที่อยู่ใต้ดินคืออะไร? คำถามนี้มันมีคำตอบหมดแล้วแหละ
มันคือจินตนาการของคุณนั่นเอง
Visitor Rating: 10/10
ตอบลบVisitor Rating: 10/10
ตอบลบ