[Review] This is The Police กับเหตุผลว่าทำไมมันถึง 'ห่วยแตก'
เชื่อว่าต้องไม่มีใครไม่รู้จักเกมตำรวจตัวใหม่ที่ทุกสื่อในไทยต่างจับตามองเนื่องจากใครๆก็แนะนำอย่าง This is The Police อย่างแน่นอน กับเกมตำรวจที่อยากจะพยายามพาเราไปดูด้านมืดของตำรวจ ระบอบคอร์รัปชั่น สื่อ การเมืองเบื้องลึก เป็นเกมที่นำเสนอโลกของตำรวจด้วยเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ดูมีทางเลือก และไปได้หลายเส้นทาง หลายๆคนทราบแล้วก็คงอยากจะลองสัมผัสดู แต่ด้วยกำแพงราคาที่สูงกว่า 315 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสำหรับบางคนที่ไม่ค่อยสนใจด้านเกมอินดี้เล่นคนเดียวแถมเน้นภาษานัก เพราะก็ไม่รู้ว่าเล่นแล้วจะสนุกหรือเปล่า คุ้มค่าราคาไหม ในวันนี้ผมจะมาสาธยายให้ฟังกัน ไหนๆก็ไหนๆ จะขอโปรยไว้ก่อนเลยว่าจงอย่าเชื่อรีวิวใน Steam ที่อวยกันจนขึ้นสถานะเป็น Very Positive เพราะเมื่อเจาะลงไปในด้านระบบ Mechanic แล้ว จะพบกับข้อผิดพลาดด้านการออกแบบระบบมากมาย เพียงพอที่จะเรียกมันได้ว่า "ห่วยแตก" เลยทีเดียว
This is The Police เป็นเกมแนววางแผนผจญภัย ที่จะให้เรารับบทเป็นคุณตำรวจวัยแก่ Jack Boyd ที่จะพาเราไปในชีวิตของตำรวจ เหลืออีกเพียง 6 เดือนเท่านั้นเขาก็เกษียนแล้ว แต่ด้วยนิสัยตงฉินมาตลอดไม่เคยรับเงินใต้โต๊ะทำให้เขาไม่ได้รวย มีบ้านติดสระว่ายน้ำแบบเพื่อนร่วมงานที่เกษียนก่อนวัยไปนานโข นั่นทำให้เขาตัดสินใจว่า อีก 180 วันที่เหลือก่อนเข้าบั้นปลายชีวิตนี่แหละ เขาจะต้องหาเงินอย่างน้อย 500,000$ ให้ได้!
เรามาดูที่ความสวยงามภายนอกกันก่อน กราฟิคของเกม This is The Police นั้นเป็นเอกลักษณ์มากครับ คือมันดูเป็นเชิง Minimalistic ดีแต่ก็ไม่มากเกินไป จะอธิบายยังไงดี เอาเป็นว่ามันเป็นภาพแบบการ์ตูนก็แล้วกัน ไม่ได้เน้นความสวยงาม แต่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ จึงจัดว่าเป็นด้านบวกของเกมที่เลือกใช้ภาพแบบนี้แทนที่จะใช้แนวสมจริงสามมิติที่เจอกันจนเกร่อ เข้ากับเกมเป็นอย่างดีด้วยแหละ
Soundtrack ก็ถือว่า On-Spot ตรงจุดพอดี ด้วยตัวธีมเกมที่เป็นตำรวจและตัวเอกเราคือนักสืบแก่ Soundtrack ส่วนใหญ่จึงออกแนวคลาสสิค ธีมยุค 1950s-60s ซึ่งก็ฟังได้เพลินๆ ไปอีกแบบ ความเจ๋งก็คือเราสามารถเลือกเพลงที่จะฟังก่อนทำภารกิจได้ด้วย ก็ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่ฟังได้เพลิน และหรรษาใช้ได้ดี
นับจากจุดนี้ไปคือส่วนใน และเราจะเริ่มบรรยายว่าทำไมเราถึงมองว่าเป็นเกมที่ดีไซน์มาได้แย่มากชนิดห่วยแตก เราขอเริ่มที่การดำเนินเรื่องของเกม เกมนี้เป็นเกม Story-Driven ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องนะครับเผื่อใครหลายคนไม่รู้ ดังนั้นการที่จะรับรสชาติของเกมนี้ได้อย่างเต็มที่ เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจในภาษาอังกฤษและทนดูฉากคัตซีนของเกมพอสมควร มิฉะนั้นเราจะพลาดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันต่อๆไปของเกมและส่งผลไปยังจุดจบ Game Over ได้ ทุกๆ วันในเกมนั้นจะมี Cutscene เล่าเรื่องของ Boyd ตัวเอกเราว่ากำลังจะไปพบกับใคร ไปทำไม แล้วเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาตัดสินใจเริ่มเข้าด้านมืด จนถึงวันสุดท้ายก่อนเกษียน เป็นเนื้อหาที่แปลกใหม่มากและไม่เคยมีเกมใดนำเสนอมาก่อน จัดว่าเป็นจุดบวกที่ดีมากๆเลย แล้วทำไมผมยังด่าว่ามันห่วย ตามมาครับ
จำกันได้ไหมครับว่าเราบอกว่าเกมนี้เป็น 'Story-Driven' ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่อง จำเอาไว้ให้ดีครับเพราะ Keyword ตัวนี้ล่ะคือตัวเจ้าปัญหาเลย เกมเพลย์ของ This is The Police จะเป็นแนววางแผนที่เราในบทหัวหน้ากรมตำรวจ จะต้องจัด Shift หรือกะของตำรวจแต่ละคนว่าวันนี้เป็นคิวของกะ A นะ ส่วนวันนี้เป็นกะ B แต่ละกะก็จะทำงานสลับกันไป เมื่อจัดกะได้แล้ว ตำรวจบางคนก็อาจจะมีปัญหาส่วนตัวอาทิเมียคลอดลูก ลืมไปว่าวันนี้นัดหมออะไรเทือกนี้ เป็นหน้าที่เราที่จะต้องตัดสินใจว่าจะให้เขาหยุดงานไหม หรือจะบังคับให้เขาทำงานต่อไป ตรงนี้ไม่มีผลใดต่อเกมมากนักนอกจากที่ว่าเราอยากได้คนในสถานีเยอะๆ จะได้มีคนพอทำงานปราบอาชญากรรม หรืออยากให้ลูกน้องเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในกะต่อๆไป
เข้าสู่ตัวเกม เราจะได้พบกับกระดานผังเมืองที่ตัวเอกเราปูไว้ เข้าสู่ช่วงปราบอาชญากรรมครับ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักก็จะมีตัวเด้งแจ้งเตือนนะว่าให้ส่งตำรวจไปจุดนี้ ตรงนั้น เราก็ต้องเลือกจำนวนตำรวจที่จะส่งไปให้รับมือ จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเรากำลังเจอกับอะไร (ตรงนี้มีทักษะอังกฤษนิดนึงจะช่วยได้เยอะมาก) อาทิเด็กวัยรุ่นป่วนเมือง ยันโจรปล้นธนาคาร บางครั้งอาจจะต้องช่วยพวกเขาตัดสินด้วยว่าจะรับมือสถานการณ์อย่างไร ควรจะลองลอบตลบหลังดีไหม หรือจะบุกยิงไปเลยดี ผลลัพธ์จะเป็นแบบสุ่มครับ เป็นเหมือนมินิเกมลุ้นๆ นิดหน่อยเล่นแก้เบื่อไป
บางครั้งก็อาจจะได้พบกับอาชญากรรมแบบมีคนถูกฆ่าตาย อันนี้ก็ต้องส่งนักสืบไปซึ่งจะแยกส่วนที่ทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปอย่างชัดเจน ฝ่ายนักสืบก็จะต้องการให้เราปะติดปะต่อเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างผ่านการดูหลักฐานและฟังปากคำจากพยานในเกม แล้วเลือกตัวผู้ร้ายว่าใครน่าจะผิด อันนี้ก็ไม่มีผลอะไรกับเกมมากเช่นกัน เลือกผิดก็ได้แพะไปพร้อมถูกผู้ว่าบังคับไล่ตำรวจออกหนึ่งคน เลือกถูกก็ดีงามพระรามแปดไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงนี้เลยแอบดูเป็นด้านลบขึ้นมานิดนึงแล้ว เพราะเท่ากับว่าไม่ว่าทำอะไรก็ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อหาเกมเลย ที่สำคัญผลลัพธ์สุ่มครับ ส่งหน่วยสวาทไปไล่ถล่มกุ๊ยข้างถนนยังมีสิทธิ์แพ้เลยคิดดู
ปัญหานี้จะเริ่มแดงขึ้นมาอีก เพราะหลังจากเราเล่นเกมไปสักพักจะเริ่มมี Event พิเศษเพิ่มขึ้นมา อาทิเริ่มมีม๊อบเหยียดผิวที่บังคับให้เราต้องไล่ตำรวจผิวสีทุกคนออก หรือเราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับอาชญากร ไม่งั้นเกมโอเวอร์ ตรงนี้แหละครับที่คำว่า 'Story-Driven' จะเริ่มกลับมาทำร้ายตัวเกมเสียเอง เพราะตัวเกมมันเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่องครับ ดังนั้นทุกตัวเลือกนั้น เกมจะล็อคไว้ว่าเราจะต้องเลือกตัวนี้ๆตามนี้เท่านั้นเพื่อที่ Boyd จะได้มีเงิน 500,000$ ก่อนเกษียนและเดินหน้าชีวิตต่อไปโดยที่ไม่ตายด้วยลูกตะกั่วเสียก่อน เลือกตัวเลือกอื่นงั้นเหรอ ตายครับ ไม่มีทางหลบหนีได้ ไม่เลือกตัวเลือกนี้ ตัวเลือกนั้น ก็ตายครับ เล่นใหม่ เลือกใหม่จนกว่าจะถูกต้องสถานเดียว นี่ทำให้เนื้อหาเกมทำงานขัดแย้งกับระบบของเกมที่เป็นเกมแนววางแผนบริหารและมอบตัวเลือกหลากหลายให้ในเกมอย่างมาก
แย่ไปกว่านั้น เมื่อเราเล่นไปเรื่อยๆ ช่วงกลางเกม ตัวเกมจะเริ่มซ้ำซาก เดิมๆ ไม่มีระบบใหม่แนะนำ ไม่มีทางเลือกของเกมให้เลือก ต้องเดินเป็นเส้นตรง ถูกเกมบังคับให้เป็นตำรวจเลวลูกเดียวเพื่อให้เรื่องราวของเกมเดินหน้าต่อไป ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่ผู้เล่นเริ่มตระหนักว่าอันที่จริงแล้วเนื้อในเกมนั้นห่วยมาก ก็จะสายเกินไปเสียแล้วขอเงินคืนไม่ทัน เนื่องจากช่วงต้นเกมหลายๆอย่างช่างดูดีเสียเหลือเกิน และ Cutscene เองก็กินเวลาแบบสุดๆ กว่าจะแนะนำระบบครบๆก็ปาเข้าไปเกือบสามชั่วโมงแล้วรวมเวลาดู Cutscene สุดท้ายผมก็เล่นไม่จบครับ ด้วยความน่าเบื่อและซ้ำซากของเกมระดับที่มิอาจทนไหว และเนื้อหาที่แย่ลงชนิดที่ว่าปิดเกมไปเปิดซีรีส์ตำรวจดูยังจะได้ฟิลชีวิตตำรวจที่ดีเสียยิ่งกว่า
https://www.youtube.com/watch?v=Odv3y374-88
พัฒนาโดย : Weappy Studio
จัดจำหน่ายโดย : Nordic Games, EuroVideo Medien
วันวางจำหน่าย : 2 สิงหาคม 2016
This is The Police เป็นเกมแนววางแผนผจญภัย ที่จะให้เรารับบทเป็นคุณตำรวจวัยแก่ Jack Boyd ที่จะพาเราไปในชีวิตของตำรวจ เหลืออีกเพียง 6 เดือนเท่านั้นเขาก็เกษียนแล้ว แต่ด้วยนิสัยตงฉินมาตลอดไม่เคยรับเงินใต้โต๊ะทำให้เขาไม่ได้รวย มีบ้านติดสระว่ายน้ำแบบเพื่อนร่วมงานที่เกษียนก่อนวัยไปนานโข นั่นทำให้เขาตัดสินใจว่า อีก 180 วันที่เหลือก่อนเข้าบั้นปลายชีวิตนี่แหละ เขาจะต้องหาเงินอย่างน้อย 500,000$ ให้ได้!
เรามาดูที่ความสวยงามภายนอกกันก่อน กราฟิคของเกม This is The Police นั้นเป็นเอกลักษณ์มากครับ คือมันดูเป็นเชิง Minimalistic ดีแต่ก็ไม่มากเกินไป จะอธิบายยังไงดี เอาเป็นว่ามันเป็นภาพแบบการ์ตูนก็แล้วกัน ไม่ได้เน้นความสวยงาม แต่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ จึงจัดว่าเป็นด้านบวกของเกมที่เลือกใช้ภาพแบบนี้แทนที่จะใช้แนวสมจริงสามมิติที่เจอกันจนเกร่อ เข้ากับเกมเป็นอย่างดีด้วยแหละ
Soundtrack ก็ถือว่า On-Spot ตรงจุดพอดี ด้วยตัวธีมเกมที่เป็นตำรวจและตัวเอกเราคือนักสืบแก่ Soundtrack ส่วนใหญ่จึงออกแนวคลาสสิค ธีมยุค 1950s-60s ซึ่งก็ฟังได้เพลินๆ ไปอีกแบบ ความเจ๋งก็คือเราสามารถเลือกเพลงที่จะฟังก่อนทำภารกิจได้ด้วย ก็ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่ฟังได้เพลิน และหรรษาใช้ได้ดี
นับจากจุดนี้ไปคือส่วนใน และเราจะเริ่มบรรยายว่าทำไมเราถึงมองว่าเป็นเกมที่ดีไซน์มาได้แย่มากชนิดห่วยแตก เราขอเริ่มที่การดำเนินเรื่องของเกม เกมนี้เป็นเกม Story-Driven ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่องนะครับเผื่อใครหลายคนไม่รู้ ดังนั้นการที่จะรับรสชาติของเกมนี้ได้อย่างเต็มที่ เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจในภาษาอังกฤษและทนดูฉากคัตซีนของเกมพอสมควร มิฉะนั้นเราจะพลาดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันต่อๆไปของเกมและส่งผลไปยังจุดจบ Game Over ได้ ทุกๆ วันในเกมนั้นจะมี Cutscene เล่าเรื่องของ Boyd ตัวเอกเราว่ากำลังจะไปพบกับใคร ไปทำไม แล้วเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาตัดสินใจเริ่มเข้าด้านมืด จนถึงวันสุดท้ายก่อนเกษียน เป็นเนื้อหาที่แปลกใหม่มากและไม่เคยมีเกมใดนำเสนอมาก่อน จัดว่าเป็นจุดบวกที่ดีมากๆเลย แล้วทำไมผมยังด่าว่ามันห่วย ตามมาครับ
จำกันได้ไหมครับว่าเราบอกว่าเกมนี้เป็น 'Story-Driven' ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่อง จำเอาไว้ให้ดีครับเพราะ Keyword ตัวนี้ล่ะคือตัวเจ้าปัญหาเลย เกมเพลย์ของ This is The Police จะเป็นแนววางแผนที่เราในบทหัวหน้ากรมตำรวจ จะต้องจัด Shift หรือกะของตำรวจแต่ละคนว่าวันนี้เป็นคิวของกะ A นะ ส่วนวันนี้เป็นกะ B แต่ละกะก็จะทำงานสลับกันไป เมื่อจัดกะได้แล้ว ตำรวจบางคนก็อาจจะมีปัญหาส่วนตัวอาทิเมียคลอดลูก ลืมไปว่าวันนี้นัดหมออะไรเทือกนี้ เป็นหน้าที่เราที่จะต้องตัดสินใจว่าจะให้เขาหยุดงานไหม หรือจะบังคับให้เขาทำงานต่อไป ตรงนี้ไม่มีผลใดต่อเกมมากนักนอกจากที่ว่าเราอยากได้คนในสถานีเยอะๆ จะได้มีคนพอทำงานปราบอาชญากรรม หรืออยากให้ลูกน้องเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในกะต่อๆไป
เข้าสู่ตัวเกม เราจะได้พบกับกระดานผังเมืองที่ตัวเอกเราปูไว้ เข้าสู่ช่วงปราบอาชญากรรมครับ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักก็จะมีตัวเด้งแจ้งเตือนนะว่าให้ส่งตำรวจไปจุดนี้ ตรงนั้น เราก็ต้องเลือกจำนวนตำรวจที่จะส่งไปให้รับมือ จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเรากำลังเจอกับอะไร (ตรงนี้มีทักษะอังกฤษนิดนึงจะช่วยได้เยอะมาก) อาทิเด็กวัยรุ่นป่วนเมือง ยันโจรปล้นธนาคาร บางครั้งอาจจะต้องช่วยพวกเขาตัดสินด้วยว่าจะรับมือสถานการณ์อย่างไร ควรจะลองลอบตลบหลังดีไหม หรือจะบุกยิงไปเลยดี ผลลัพธ์จะเป็นแบบสุ่มครับ เป็นเหมือนมินิเกมลุ้นๆ นิดหน่อยเล่นแก้เบื่อไป
บางครั้งก็อาจจะได้พบกับอาชญากรรมแบบมีคนถูกฆ่าตาย อันนี้ก็ต้องส่งนักสืบไปซึ่งจะแยกส่วนที่ทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปอย่างชัดเจน ฝ่ายนักสืบก็จะต้องการให้เราปะติดปะต่อเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างผ่านการดูหลักฐานและฟังปากคำจากพยานในเกม แล้วเลือกตัวผู้ร้ายว่าใครน่าจะผิด อันนี้ก็ไม่มีผลอะไรกับเกมมากเช่นกัน เลือกผิดก็ได้แพะไปพร้อมถูกผู้ว่าบังคับไล่ตำรวจออกหนึ่งคน เลือกถูกก็ดีงามพระรามแปดไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงนี้เลยแอบดูเป็นด้านลบขึ้นมานิดนึงแล้ว เพราะเท่ากับว่าไม่ว่าทำอะไรก็ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อหาเกมเลย ที่สำคัญผลลัพธ์สุ่มครับ ส่งหน่วยสวาทไปไล่ถล่มกุ๊ยข้างถนนยังมีสิทธิ์แพ้เลยคิดดู
ปัญหานี้จะเริ่มแดงขึ้นมาอีก เพราะหลังจากเราเล่นเกมไปสักพักจะเริ่มมี Event พิเศษเพิ่มขึ้นมา อาทิเริ่มมีม๊อบเหยียดผิวที่บังคับให้เราต้องไล่ตำรวจผิวสีทุกคนออก หรือเราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับอาชญากร ไม่งั้นเกมโอเวอร์ ตรงนี้แหละครับที่คำว่า 'Story-Driven' จะเริ่มกลับมาทำร้ายตัวเกมเสียเอง เพราะตัวเกมมันเป็นเกมเน้นเนื้อเรื่องครับ ดังนั้นทุกตัวเลือกนั้น เกมจะล็อคไว้ว่าเราจะต้องเลือกตัวนี้ๆตามนี้เท่านั้นเพื่อที่ Boyd จะได้มีเงิน 500,000$ ก่อนเกษียนและเดินหน้าชีวิตต่อไปโดยที่ไม่ตายด้วยลูกตะกั่วเสียก่อน เลือกตัวเลือกอื่นงั้นเหรอ ตายครับ ไม่มีทางหลบหนีได้ ไม่เลือกตัวเลือกนี้ ตัวเลือกนั้น ก็ตายครับ เล่นใหม่ เลือกใหม่จนกว่าจะถูกต้องสถานเดียว นี่ทำให้เนื้อหาเกมทำงานขัดแย้งกับระบบของเกมที่เป็นเกมแนววางแผนบริหารและมอบตัวเลือกหลากหลายให้ในเกมอย่างมาก
แย่ไปกว่านั้น เมื่อเราเล่นไปเรื่อยๆ ช่วงกลางเกม ตัวเกมจะเริ่มซ้ำซาก เดิมๆ ไม่มีระบบใหม่แนะนำ ไม่มีทางเลือกของเกมให้เลือก ต้องเดินเป็นเส้นตรง ถูกเกมบังคับให้เป็นตำรวจเลวลูกเดียวเพื่อให้เรื่องราวของเกมเดินหน้าต่อไป ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่ผู้เล่นเริ่มตระหนักว่าอันที่จริงแล้วเนื้อในเกมนั้นห่วยมาก ก็จะสายเกินไปเสียแล้วขอเงินคืนไม่ทัน เนื่องจากช่วงต้นเกมหลายๆอย่างช่างดูดีเสียเหลือเกิน และ Cutscene เองก็กินเวลาแบบสุดๆ กว่าจะแนะนำระบบครบๆก็ปาเข้าไปเกือบสามชั่วโมงแล้วรวมเวลาดู Cutscene สุดท้ายผมก็เล่นไม่จบครับ ด้วยความน่าเบื่อและซ้ำซากของเกมระดับที่มิอาจทนไหว และเนื้อหาที่แย่ลงชนิดที่ว่าปิดเกมไปเปิดซีรีส์ตำรวจดูยังจะได้ฟิลชีวิตตำรวจที่ดีเสียยิ่งกว่า
https://www.youtube.com/watch?v=Odv3y374-88
Visitor Rating: 100%
ตอบลบVisitor Rating: 69%
ตอบลบ