Header Ads

[Review] Phantaruk หลอนไม่สุด

พูดถึงเกม Horror ในสมัยนี้ สิ่งแรกที่น่าจะแวบเข้ามาในหัวท่านผู้อ่านทั้งหลายย่อมไม่พ้นเกมที่นำเสนอบรรยากาศมืดๆ ตัวละครหลักที่ไม่มีอะไรให้ใช้นอกจากสองมือหยิบของสองเท้าวิ่งหนี และปีศาจที่ดูจะรู้ทุกย่างก้าวของเราและไล่ล่าเราไปทั่วทั้งเกม และ Phantaruk ก็ไม่ได้หลุดไปจาก Concept นี้เท่าไหร่นัก หลังจากใช้เวลาเล่นจนจบไปประมาณ 4 ชั่วโมง ก็คิดว่าน่าจะมีข้อมูลพอสมควรที่จะรีวิวได้แล้ว ใครอยากรู้ว่าเกมนี้คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นไหมก็ตามมาได้

พัฒนาโดย : Polyslash


จัดจำหน่ายโดย : PlayWay S.A.


ราคาไทย : 269 บาท



Phanturak เป็นเกม Survival Horror FPS ที่จะให้เรารับบทเป็นมนุษย์ปริศนาที่ไม่เชิงว่าเป็นมนุษย์นัก (อยากรู้ว่าทำไมถึงไม่เชิงต้องไปลองเล่นครับ มันสปอยน่ะ แหะๆ) ที่ต้องตะลุยไปในสถานีอวกาศปริศนานาม Purity-02 ซึ่งเป็นสถานีหลักของบริษัท H+ Corporation บริษัทที่มีบทบาทใหญ่ในเกม เราตื่นขึ้นมา และก็ได้พบว่าสถานีอวกาศที่เราต้องฝ่านั้นกลายเป็นสถานีร้างไปแล้ว ไม่มีใครที่สติดีอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่ไม่ตายก็กลายเป็นอะไรบางอย่าง ที่อันตราย ดุร้าย และมิสามารถสื่อสารกับอะไรได้ เราจะทำยังไงดีน่ะเหรอ ก็หาทางออกไปจากที่นี่สิ จะรอให้มันเขมือบเราหรือยังไงเล่า!



สิ่งแรกที่ผมเจอหลังจากกดเข้าเกมแล้วก็คือบรรยากาศในเกมที่ออกแบบมาได้ดูดีมาก คือด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือเปล่าเลยทำให้รายละเอียดเกมดีเทลสิ่งของต่างๆ นั้นดูเรียบๆ แบนๆ ไร้สีสัน แต่การจัดวางองค์ประกอบแสงสีถือว่าทำได้เข้าตาเอามากๆ ให้บรรยากาศที่หลอนๆ ชวนหวาดระแวงได้เป็นอย่างดี ทำเอาผมนึกถึง SOMA เลยก็ว่าได้ ถ้ามีการใส่รายละเอียด ขัดเกลารายละเอียดสิ่งของต่างๆ ในเกมได้ดีกว่านี้ไม่ทำให้ดูเรียบแบนราบซ้ำซากน่าจะเป็นเกมที่สวยงามได้ไม่ยาก แต่ ณ ตอนนี้คือเกมยังทำได้ไม่สุดตรงจุดนี้ครับ

เปิดตัวได้สวยที่ภาพแต่ระบบล่ะจะดีหรือเปล่า? ตัวเกมเป็น Survival Horror ที่ต้องการให้ผู้เล่นลอบเร้นหนีปีศาจเป็นหลัก แน่นอนว่าเราต่อกรกับพวกนี้ไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือก้มๆ วิ่งๆ ระบบ Stealth ลอบเร้นในเกมนี้ทำมาได้ค่อนข้างประหลาดครับ และต้องบอกว่ามันแย่มากๆ เลยล่ะ ก็คือผู้เล่นจะต้องสังเกตสัญลักษณ์ลูกตาที่มุมซ้ายล่างของเรา ถ้ามันสว่าง แปลว่าเรากำลังอยู่ในพื้นที่ๆแสงเยอะ ศัตรูจะเห็นเราได้ง่าย ต่อให้ก้มแต่ถ้ามันอยู่ใกล้มันก็เห็นเรา กลับกันถ้าตรงนั้นไม่มีรูปลูกตาเจิดจรัศขึ้นมาเลยแปลว่าต่อให้มันมองหน้าเรา มันก็จะไม่เห็นเรา ตรงนี้ถามผมส่วนตัวแล้วมันฟังดูดีมากๆ แต่เอาจริงๆ ตัวเกมสอบตกครับ บางครั้งที่ศัตรูมันไม่น่าจะเห็นเราเพราะเราซ่อนตัวติดกำแพง แต่เจ้ากรรมดันเดินมาใกล้ๆ ต่อให้มีกำแพงมันก็เห็นเราครับ กลับกันบางครั้งสถานการณ์เดียวกัน มันไม่เห็นเราก็มี บางครั้งไอ้สถานการณ์ที่ไม่ควรรอดดันรอดซะงั้น



แต่ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือระบบวิ่งหนี กรณีศัตรูเจอเรา มันก็จะวิ่งไล่ตามครับ เราก็ต้องวิ่งหนีหาที่ซ่อนใหม่ตามสูตรเกมแนวนี้ ปัญหาคือในเกมนี้ ศัตรูมันวิ่งเร็วกว่าเรา และเราดันมีค่า Stamina ความเหนื่อยที่น้อยมากๆ วิ่งสามวิก็หมดหลอดแล้วหอบแฮ่กๆ มันเลยเป็นเกมแบบว่า เจอตัว = ตายกันได้เลย บางด่านก็หาที่ซ่อนตัวได้ยากมาก ตัวเกมไม่มีระบบซ่อนตัวตามตู้อะไรแบบนี้ครับ อาศัยกำแพงที่กำบังเอาล้วนๆ 70% ของเกมยังเต็มไปด้วยแสงไฟสลัวๆ ก็คือแทบจะหาที่หลบไม่ได้ถ้าโดนเจอตัวนั่นแหละ จัดว่าสอบตกเรื่องความสมดุลและค่อนข้างที่จะบังคับผู้เล่นให้ลอบเร้นหนักพอสมควร



ตัวเกมยังใช้วิธียัดข้อมูลให้กับเราเป็นการดำเนินเรื่อง ก็คือเดินๆอยู่ ผ่านตู้เก็บเสียงอัดบันทึก เกมก็จะหยุดเราแล้วบังคับให้เราฟังอัติโนมัติ เป็นวิธียัดปูมหลังของเกมให้ผู้เล่นรับทราบที่ค่อนข้างน่าเกลียด เคราะห์ดีที่เรากดข้ามได้ แต่ก็ยังแย่อยู่ดีที่ตัวเกมอยากจะให้เรารู้รายละเอียดของเกมเสียเหลือเกิน โดยที่ไม่ได้คิดจะถามคนเล่นเลยว่าเขาอยากจะรู้เรื่องราวในเกมหรือเปล่า เนื้อหาก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรก็แนวเล่าเรื่องก่อนโดนปีศาจยึดยานอะไรทำนองนี้นั่นแหละ

นอกจากนี้ยังยัดระบบที่ทำให้ผู้เล่นทะเลาะกันว่าการมีตัวตนของมันทำให้เกมดีขึ้นหรือไม่อย่างระบบฉีดยา ก็คือชั้นบรรยากาศสถานที่ในเกมมันเต็มไปด้วยควันพิษครับ ยิ่งเราสูดเข้าไปร่างกายเรายิ่งได้รับพิษมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องหายาต้านพิษมาฉีดใส่ตนเองตลอดเวลาในเกม เป็นระบบที่ค่อนข้างบีบบังคับให้คนเล่นออกสำรวจโลกมากขึ้น ในขณะเดียวกันมันก็สร้างความหงุดหงิดไปด้วย โดยส่วนตัวไม่มีปัญหากับระบบนี้ เพราะเกมก็ไม่ได้บีบให้เราฉีดทุกนาทีอะไรแบบนั้น แถมยังมีให้เก็บตลอดทางในเกม แต่บอกไม่ได้ว่าคนอื่นจะมองแบบเดียวกันหรือไม่ นานาจิตตังครับ



ไม่มีความคิดเห็น