อะไรคือนิยามของคำว่า 'เกมอินดี้'
ย้อนกลับไปในยุค 80s-90s ถ้าคุณไปบอกใครสักคนว่า 'ฉันจะทำเกมอินดี้' ทุกคนจะต้องหัวเราะใส่อย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่จะทำยากแล้ว ยังจัดจำหน่ายเองได้ยากอีกด้วยเว้นเสียแต่ไปขอให้ผู้จัดจำหน่ายเกมที่เงินทุนหนาๆ ช่วย อาทิ Jeff Minter นักพัฒนาเกมอินดี้ในยุค 90s ทำเกมขึ้นมาและจำเป็นต้องร่วมมือกับแม่ของเขาเพื่อส่งจดหมายแนบ Floppy Disk ให้คนที่สนใจไปเล่นเพื่อที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับเขาและตัวเกม เป็นเส้นทางชีวิตของ Minter ที่ลำบากมากกว่าจะมาถึงจุดที่เขามีบริษัทเกมอินดี้นาม Llmasoft เป็นของตัวเองได้
หันมาดูในยุคปัจจุบัน เกมอินดี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกว่าเดิมมากมาย การมีตัวตนของสิ่งที่เรียกว่า 'Digital Distribution' หรือผู้จัดจำหน่ายดิจิตอลที่ช่วยหนุนนักพัฒนาเกมหน้าใหม่ทั้งหลายอาทิ Steam, GOG ช่วยให้พวกเขาไม่ต้องลำบากไปพึ่งพาสื่อเกมหรือการแจกเกมฟรีกระจายชื่อเสียงเกมนั้นๆ มากเทียบเท่ากับแต่ก่อน กระนั้นปัญหาใหม่ก็ตามมาด้วยเช่นกัน เพราะเรากำลังอยู่ในยุคที่มีเกม 'เยอะเกินไป' มีเกมใหม่ๆวางจำหน่ายใน Steam แทบทุกวัน แถมบางเกมก็ดูดีเสียเหลือเกินจนผู้คนชักไมแน่ใจแล้วว่าเจ้าคำว่า 'เกมอินดี้' นี้ มันยังมีความหมายอยู่อีกหรือไม่ แล้วถ้ามี มันหมายถึงเกมแบบไหนกันล่ะ
ในมุมมองของชาวไทยและนักเล่นเกมทั่วไปทั่วโลกนั้น มักจะมองว่าเกมอินดี้ เป็นเกมที่ต้องมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
ถามว่าพวกเขามองผิดไหม ก็ไม่เชิงผิดเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน ถ้าจะบอกว่าภาพไม่สวย = อินดี้ งานนี้คงต้องเรียก South Park: The Stick of Truth มาเคลียร์กันเสียหน่อยแล้ว เกมอินดี้ต้องเป็นเกมราคาถูกเหรอ? ถ้าผมบอกว่า The Witness เป็นเกมปริศนาภาพแสนจะสดสวยมีสนนราคาอยู่ที่ 729 บาทล่ะ หรือถ้าจะบอกว่าถ้าฮิต ก็ไม่ใช่เกมอินดี้แล้ว ใครก็ได้เรียก Minecraft, No Man's Sky และ Stardew Valley มาให้ผมหน่อยเร็ว!
สิ่งที่ผมพยายามจะบอกก็คือยังมีคนไทยอีกหลายคนที่มีมุมมองเกี่ยวกับเกม 'อินดี้' อย่างที่ผมว่ามาด้านบน อาจจะไม่ใช่ทุกคน อาจจะเป็นเพราะผมคิดเหมารวมไปเอง แต่ปฏิเสธข้อนี้ไม่ได้เลยว่า ถ้าไม่มีสื่อไทยที่ไหนหยิบมาพูด หรือมีนักแคสเกมให้ความบันเทิงกดมาเล่นให้ดู เกมนั้นๆ จะไม่มีวันดังหรือเป็นที่สนใจเลย และมันก็จะตกเป็นกลุ่มเกม 'อินดี้' ไปโดยปริยาย
แต่พูดก็พูดเถอะ เรากำลังอยู่ในยุคที่มีเกมอินดี้เยอะเกินไปจนไม่สามารถแยกได้ว่าอันไหนคือเกมอินดี้กันแน่ นั่นทำให้หลายๆคนเหมารวมไปเลยว่ามันก็คือเกม เนื่องจากความหมายของคำว่า 'เกมอินดี้' มันแปรเปลี่ยนไปมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว เอาเป็นว่าเกมไหนน่าเล่นก็ซื้อมาเล่น แค่นั้น ไม่แปลกใจว่าถ้าหากเกมนั้นๆไม่ดัง หรือไม่มีใครแนะนำ รีวิว พูดถึง ก็จะไม่ถูกใครชายตามองเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่เกมอินดี้หรอกที่ไม่ค่อยมีคนมองหาเพียงเพราะ 'ภาพไม่สวยแสบตา ไม่มีใครเล่น' เกม AAA บางเกมก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเหมือนกัน ใช่ไหม Battleborn...
เข้าสู่ช่วงวิชาการ อ้างอิงตาม Wikipedia แล้ว เกมอินดี้นั้นไม่มีความหมายที่แน่นอน แต่โดยรวมก็จะสรุปที่ว่า มันเป็นเกมที่พัฒนาโดยทีมพัฒนาเกมทีมเล็กๆ (ไม่เกิน 200 คนโดยประมาณ) และจัดจำหน่ายเองโดยไม่พึ่งผู้จัดจำหน่ายเงินทุนหนาๆ เลย ดังนั้นถ้าพูดกันในเชิงเทคนิคแล้ว เกมอย่าง 'Journay' และ 'Unravel' ก็ไม่สามารถเป็นเกมอินดี้ได้แม้ทุกคนจะเรียกมันว่า 'เกมอินดี้' เนื่องจากการนำเสนอของมันก็ตาม เพราะ Journay ได้รับการสนับสนุนโดย Sony ส่วน Unravel เป็นของ EA, มาถึงตรงนี้ก็จะมีบางคนแย้งว่าแบบนี้ Valve ก็ไม่ใช่ค่ายเกม AAA น่ะสิ ทำเกม จัดจำหน่ายเอง แถมทีมก็เล็กนิดเดียวสองร้อยกว่าชีวิตเทียบกับ Ubisoft ที่มีเป็นหมื่นๆคน นั่นทำให้เราต้องเพิ่มอีกหนึ่งเงื่อนไขเพิ่มเข้ามาคือ 'ต้องใช้งบประมาณพัฒนาเกมๆหนึ่งไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ' ถ้าเกินก็จะเข้าสถานะ AAA ทันที นั่นทำให้ Valve และ Cloud Imperium Games ที่กำลังพัฒนา Star Citizen ไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นค่ายเกมอินดี้นั่นเอง
ทั้งนี้ถ้าวงการเกมมีแต่คำว่า "อินดี้" และ "AAA" การแยกรูปแบบเกมคงจะวุ่นวายเอาเรื่องเลย เพราะบางเกมไม่ได้ใช้งบประมาณเยอะ คนทำเกมก็น้อย แต่ดังเป็นพลุแตก แถมภาพสวยระบบอลังจนคนคิดว่ามันเป็นเกม AAA ไปเลยก็มี อาทิ No Man's Sky ที่งบพัฒนาเกมไม่ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยซ้ำ (อาศัย Net Worth รายได้สุทธิเฉลี่ยของค่าย Hello Games เป็นตัววัดหลัก) และมีทีมพัฒนาไม่ถึง 20 ชีวิต แต่เป็นหนึ่งในเกมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ และพึ่งพา Sony ผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่นิดหน่อยให้เกมเป็นที่รู้จัก นั่นทำให้ต้องมีอะไรบางอย่างเข้ามาแทรกทั้งสองสีขาวดำนี้ เป็นเสมือนสีเทาแห่งอุตสาหกรรมเกมที่แยกออกมาจาก AAA เราเรียกมันว่า 'AA'
AA หรือเกม Medium มิได้บัญญัติใน Wikipedia หากแต่ถูกบัญญัติโดยนักเล่นเกมด้วยกัน หมายถึงเกมที่ไม่ได้ใช้งบประมาณน้อยหรือคนในทีมพัฒนาที่น้อยจนควรถูกจัดว่าเป็นเกมอินดี้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ใช้มากถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐจนเป็นเกม AAA เป็นการจัด Genre สำหรับเกมที่ไม่ใหญ่ระดับเป็นเกม AAA แต่ดูดีและมีรายละเอียดเยอะพอที่จะทำให้เราไม่อยากจัดมันเป็นเกมอินดี้ จะมีนายทุนจัดจำหน่ายเกมช่วยหรือไม่มีก็ได้ โดยมากแล้วเกม AA นั้นก็ใช้งบพัฒนาเกมสูงเช่นกัน บางเกมอาจใช้งบหลักล้านเลย แต่ตราบใดที่ไม่เกินร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังไม่สามารถเรียกว่าเป็นเกม AAA ได้ ตัวอย่างเกม AA นั้นก็เกมวางแผนจากค่าย Paradox Interactive (Europa Universalis 4 และ Crusader Kings 2), Hyper Light Drifter (จากงบพัฒนาเกมที่ต้องการแค่หลักหมื่น ขึ้นสู่เฉียดล้านด้วยการสนับสนุนของผู้ที่บริจาคใน Kickstarter เลยเป็นการยกระดับเกมไปในตัว) เกมของค่าย Telltales Games. Dead By Daylight รวมไปถึงเกมอย่าง Journey และ Unravel ที่เรายกตัวอย่างไว้ด้านบนก็ต้องจัดว่าเป็นเกม AA เช่นกัน
ถ้าเราจะมานั่งแยกแยะว่าอันไหนควรเรียกอินดี้อันไหนไม่ควรด้วยการใช้ความหมายเชิงเทคนิค วันนี้ทั้งวันก็คงไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้วล่ะครับ ไม่ใช่ทุกเกมที่เผยงบประมาณการพัฒนาเกมออกมา ดังนั้นเกมที่เราเล่นอยู่ที่ภาพก็ไม่ได้สวยงามอะไรอาทิ South Park มันอาจจะเป็นเกม AAA ทุนสร้างสูงทะลุหอไอเฟลเลยก็ได้ เกมที่ทุกคนรู้จักอย่าง Outlast มันอาจจะเป็นแค่เกมอินดี้ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นเราจะแยกเกมอินดี้อย่างไรดีล่ะ
จากที่ผมสัมภาษณ์มาส่วนหนึ่ง ก็มีคนบอกว่า "ไม่ต้องให้ความสำคัญกับค่ายเกมพัฒนา ค่ายที่จัดจำหน่ายหรอก สนใจที่ 'รูปแบบการนำเสนอ' ดีกว่า ถ้าพวกเขาเน้นขายเนื้อหา ขายภาพ มันย่อมมีอะไรสักอย่างบอกเราเองแหละว่า เออ เจ้าเกมนี้มันคือเกมอินดี้ ไม่มีคำอธิบายใดๆ ต้องมาจำกัดความให้มาก" บ้างก็บอกว่า "สำหรับผมดูจาก ต้นทุน ชื่อเสียงทีมงานและการโฆษณาครับ พวกเขาดังไหม เกมโฆษณาดีหรือเปล่า ถ้าทัมพัฒนาดังแล้ว ก็ไม่ใช่เกมอินดี้ แค่นั้น" อีกคนก็พูดคล้ายๆกันว่า "ถ้าค่ายพัฒนาเกมหน้าใหม่ ก็เกมอินดี้ ถ้ามีชื่อเสียงก็ไม่ใช่ แต่ก็ต้องพิจารณาภาพในเกมหรือเสียงด้วย"
นั่นทำให้โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าการมองแบบแรกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีข้อจำกัดด้านชื่อเสียง ทีมพัฒนาเกม หรือการตลาด เราแค่มองดูภาพในเกม ดูที่ระบบ ดู Trailer เราก็สามารถพิจารณาได้ทันทีว่ามันสมควรเป็นเกมอินดี้หรือไม่ บางกรณีอาจจะแอบทำเรดาร์พังบ้าง อาทิ ARK: Survival Evolved ที่ถือว่าเป็นเกมอินดี้ แต่ภาพในเกม ระบบ และความนิยมนี่แทบจะเทียบเท่าเกม AAA ทุนสร้างร้อยล้านเลยทีเดียว
ดังนั้นก็สามารถสรุปได้อย่างง่ายๆ ว่านิยามของเกมอินดี้นั้น ไม่ว่าตามเทคนิคแล้วคือเกมที่นำเสนอรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งที่หาไม่ได้จากเกมตลาดทั่วไป มันอาจจะเป็นระบบการเล่นที่แปลกใหม่ เพลง Soundtrack ชวนติดหู หรืองานภาพที่สวยงามแค่เปิดดูภาพสิบนาทีก็อิ่มแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเกมจากค่ายไหนแห่งใด ขอแค่ไม่ได้ดูเลิศหรู และคิดราคาแพงพร้อมปั้ม DLC มานับร้อยเป็นพอ
แล้วความหมายของเกมอินดี้สำหรับคุณล่ะ คืออะไร?
หันมาดูในยุคปัจจุบัน เกมอินดี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกว่าเดิมมากมาย การมีตัวตนของสิ่งที่เรียกว่า 'Digital Distribution' หรือผู้จัดจำหน่ายดิจิตอลที่ช่วยหนุนนักพัฒนาเกมหน้าใหม่ทั้งหลายอาทิ Steam, GOG ช่วยให้พวกเขาไม่ต้องลำบากไปพึ่งพาสื่อเกมหรือการแจกเกมฟรีกระจายชื่อเสียงเกมนั้นๆ มากเทียบเท่ากับแต่ก่อน กระนั้นปัญหาใหม่ก็ตามมาด้วยเช่นกัน เพราะเรากำลังอยู่ในยุคที่มีเกม 'เยอะเกินไป' มีเกมใหม่ๆวางจำหน่ายใน Steam แทบทุกวัน แถมบางเกมก็ดูดีเสียเหลือเกินจนผู้คนชักไมแน่ใจแล้วว่าเจ้าคำว่า 'เกมอินดี้' นี้ มันยังมีความหมายอยู่อีกหรือไม่ แล้วถ้ามี มันหมายถึงเกมแบบไหนกันล่ะ
นิยามของ 'เกมอินดี้' ในมุมมองของคนทั่วไปในปัจจุบัน
ในมุมมองของชาวไทยและนักเล่นเกมทั่วไปทั่วโลกนั้น มักจะมองว่าเกมอินดี้ เป็นเกมที่ต้องมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
- ภาพสองมิติ เป็นพิกเซลเก่าๆ ภาพไม่สวย
- เป็นแนว Platformer กระโดดไปมาผ่านด่าน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเดินตะลุยด่านยิงศัตรู, แนว Rogue-Like RPG หรือแนว Puzzle แก้ปริศนา
- ราคาถูกกว่าเกม AAA มากๆ
- ต้องไม่ฮิต ไม่มีคนเล่นเยอะ ไม่มีใครหยิบมาพูดหรือหยิบมาพูดนิดเดียว ถ้าฮิต ไม่ใช่เกมอินดี้ (อย่าเอ็ดไป มีคนคิดแบบนี้จริงๆ เยอะด้วย แล้วคุณจะตกใจ)
ถามว่าพวกเขามองผิดไหม ก็ไม่เชิงผิดเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน ถ้าจะบอกว่าภาพไม่สวย = อินดี้ งานนี้คงต้องเรียก South Park: The Stick of Truth มาเคลียร์กันเสียหน่อยแล้ว เกมอินดี้ต้องเป็นเกมราคาถูกเหรอ? ถ้าผมบอกว่า The Witness เป็นเกมปริศนาภาพแสนจะสดสวยมีสนนราคาอยู่ที่ 729 บาทล่ะ หรือถ้าจะบอกว่าถ้าฮิต ก็ไม่ใช่เกมอินดี้แล้ว ใครก็ได้เรียก Minecraft, No Man's Sky และ Stardew Valley มาให้ผมหน่อยเร็ว!
สิ่งที่ผมพยายามจะบอกก็คือยังมีคนไทยอีกหลายคนที่มีมุมมองเกี่ยวกับเกม 'อินดี้' อย่างที่ผมว่ามาด้านบน อาจจะไม่ใช่ทุกคน อาจจะเป็นเพราะผมคิดเหมารวมไปเอง แต่ปฏิเสธข้อนี้ไม่ได้เลยว่า ถ้าไม่มีสื่อไทยที่ไหนหยิบมาพูด หรือมีนักแคสเกมให้ความบันเทิงกดมาเล่นให้ดู เกมนั้นๆ จะไม่มีวันดังหรือเป็นที่สนใจเลย และมันก็จะตกเป็นกลุ่มเกม 'อินดี้' ไปโดยปริยาย
แต่พูดก็พูดเถอะ เรากำลังอยู่ในยุคที่มีเกมอินดี้เยอะเกินไปจนไม่สามารถแยกได้ว่าอันไหนคือเกมอินดี้กันแน่ นั่นทำให้หลายๆคนเหมารวมไปเลยว่ามันก็คือเกม เนื่องจากความหมายของคำว่า 'เกมอินดี้' มันแปรเปลี่ยนไปมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว เอาเป็นว่าเกมไหนน่าเล่นก็ซื้อมาเล่น แค่นั้น ไม่แปลกใจว่าถ้าหากเกมนั้นๆไม่ดัง หรือไม่มีใครแนะนำ รีวิว พูดถึง ก็จะไม่ถูกใครชายตามองเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่ามีแต่เกมอินดี้หรอกที่ไม่ค่อยมีคนมองหาเพียงเพราะ 'ภาพไม่สวยแสบตา ไม่มีใครเล่น' เกม AAA บางเกมก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรเหมือนกัน ใช่ไหม Battleborn...
คำจำกัดความของ 'เกมอินดี้' ในเชิงเทคนิค
เข้าสู่ช่วงวิชาการ อ้างอิงตาม Wikipedia แล้ว เกมอินดี้นั้นไม่มีความหมายที่แน่นอน แต่โดยรวมก็จะสรุปที่ว่า มันเป็นเกมที่พัฒนาโดยทีมพัฒนาเกมทีมเล็กๆ (ไม่เกิน 200 คนโดยประมาณ) และจัดจำหน่ายเองโดยไม่พึ่งผู้จัดจำหน่ายเงินทุนหนาๆ เลย ดังนั้นถ้าพูดกันในเชิงเทคนิคแล้ว เกมอย่าง 'Journay' และ 'Unravel' ก็ไม่สามารถเป็นเกมอินดี้ได้แม้ทุกคนจะเรียกมันว่า 'เกมอินดี้' เนื่องจากการนำเสนอของมันก็ตาม เพราะ Journay ได้รับการสนับสนุนโดย Sony ส่วน Unravel เป็นของ EA, มาถึงตรงนี้ก็จะมีบางคนแย้งว่าแบบนี้ Valve ก็ไม่ใช่ค่ายเกม AAA น่ะสิ ทำเกม จัดจำหน่ายเอง แถมทีมก็เล็กนิดเดียวสองร้อยกว่าชีวิตเทียบกับ Ubisoft ที่มีเป็นหมื่นๆคน นั่นทำให้เราต้องเพิ่มอีกหนึ่งเงื่อนไขเพิ่มเข้ามาคือ 'ต้องใช้งบประมาณพัฒนาเกมๆหนึ่งไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ' ถ้าเกินก็จะเข้าสถานะ AAA ทันที นั่นทำให้ Valve และ Cloud Imperium Games ที่กำลังพัฒนา Star Citizen ไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นค่ายเกมอินดี้นั่นเอง
ทั้งนี้ถ้าวงการเกมมีแต่คำว่า "อินดี้" และ "AAA" การแยกรูปแบบเกมคงจะวุ่นวายเอาเรื่องเลย เพราะบางเกมไม่ได้ใช้งบประมาณเยอะ คนทำเกมก็น้อย แต่ดังเป็นพลุแตก แถมภาพสวยระบบอลังจนคนคิดว่ามันเป็นเกม AAA ไปเลยก็มี อาทิ No Man's Sky ที่งบพัฒนาเกมไม่ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยซ้ำ (อาศัย Net Worth รายได้สุทธิเฉลี่ยของค่าย Hello Games เป็นตัววัดหลัก) และมีทีมพัฒนาไม่ถึง 20 ชีวิต แต่เป็นหนึ่งในเกมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ และพึ่งพา Sony ผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่นิดหน่อยให้เกมเป็นที่รู้จัก นั่นทำให้ต้องมีอะไรบางอย่างเข้ามาแทรกทั้งสองสีขาวดำนี้ เป็นเสมือนสีเทาแห่งอุตสาหกรรมเกมที่แยกออกมาจาก AAA เราเรียกมันว่า 'AA'
AA หรือเกม Medium มิได้บัญญัติใน Wikipedia หากแต่ถูกบัญญัติโดยนักเล่นเกมด้วยกัน หมายถึงเกมที่ไม่ได้ใช้งบประมาณน้อยหรือคนในทีมพัฒนาที่น้อยจนควรถูกจัดว่าเป็นเกมอินดี้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ใช้มากถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐจนเป็นเกม AAA เป็นการจัด Genre สำหรับเกมที่ไม่ใหญ่ระดับเป็นเกม AAA แต่ดูดีและมีรายละเอียดเยอะพอที่จะทำให้เราไม่อยากจัดมันเป็นเกมอินดี้ จะมีนายทุนจัดจำหน่ายเกมช่วยหรือไม่มีก็ได้ โดยมากแล้วเกม AA นั้นก็ใช้งบพัฒนาเกมสูงเช่นกัน บางเกมอาจใช้งบหลักล้านเลย แต่ตราบใดที่ไม่เกินร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังไม่สามารถเรียกว่าเป็นเกม AAA ได้ ตัวอย่างเกม AA นั้นก็เกมวางแผนจากค่าย Paradox Interactive (Europa Universalis 4 และ Crusader Kings 2), Hyper Light Drifter (จากงบพัฒนาเกมที่ต้องการแค่หลักหมื่น ขึ้นสู่เฉียดล้านด้วยการสนับสนุนของผู้ที่บริจาคใน Kickstarter เลยเป็นการยกระดับเกมไปในตัว) เกมของค่าย Telltales Games. Dead By Daylight รวมไปถึงเกมอย่าง Journey และ Unravel ที่เรายกตัวอย่างไว้ด้านบนก็ต้องจัดว่าเป็นเกม AA เช่นกัน
แล้วคิดว่านิยามของเกมอินดี้คืออะไรล่ะ
ถ้าเราจะมานั่งแยกแยะว่าอันไหนควรเรียกอินดี้อันไหนไม่ควรด้วยการใช้ความหมายเชิงเทคนิค วันนี้ทั้งวันก็คงไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้วล่ะครับ ไม่ใช่ทุกเกมที่เผยงบประมาณการพัฒนาเกมออกมา ดังนั้นเกมที่เราเล่นอยู่ที่ภาพก็ไม่ได้สวยงามอะไรอาทิ South Park มันอาจจะเป็นเกม AAA ทุนสร้างสูงทะลุหอไอเฟลเลยก็ได้ เกมที่ทุกคนรู้จักอย่าง Outlast มันอาจจะเป็นแค่เกมอินดี้ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นเราจะแยกเกมอินดี้อย่างไรดีล่ะ
จากที่ผมสัมภาษณ์มาส่วนหนึ่ง ก็มีคนบอกว่า "ไม่ต้องให้ความสำคัญกับค่ายเกมพัฒนา ค่ายที่จัดจำหน่ายหรอก สนใจที่ 'รูปแบบการนำเสนอ' ดีกว่า ถ้าพวกเขาเน้นขายเนื้อหา ขายภาพ มันย่อมมีอะไรสักอย่างบอกเราเองแหละว่า เออ เจ้าเกมนี้มันคือเกมอินดี้ ไม่มีคำอธิบายใดๆ ต้องมาจำกัดความให้มาก" บ้างก็บอกว่า "สำหรับผมดูจาก ต้นทุน ชื่อเสียงทีมงานและการโฆษณาครับ พวกเขาดังไหม เกมโฆษณาดีหรือเปล่า ถ้าทัมพัฒนาดังแล้ว ก็ไม่ใช่เกมอินดี้ แค่นั้น" อีกคนก็พูดคล้ายๆกันว่า "ถ้าค่ายพัฒนาเกมหน้าใหม่ ก็เกมอินดี้ ถ้ามีชื่อเสียงก็ไม่ใช่ แต่ก็ต้องพิจารณาภาพในเกมหรือเสียงด้วย"
นั่นทำให้โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าการมองแบบแรกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีข้อจำกัดด้านชื่อเสียง ทีมพัฒนาเกม หรือการตลาด เราแค่มองดูภาพในเกม ดูที่ระบบ ดู Trailer เราก็สามารถพิจารณาได้ทันทีว่ามันสมควรเป็นเกมอินดี้หรือไม่ บางกรณีอาจจะแอบทำเรดาร์พังบ้าง อาทิ ARK: Survival Evolved ที่ถือว่าเป็นเกมอินดี้ แต่ภาพในเกม ระบบ และความนิยมนี่แทบจะเทียบเท่าเกม AAA ทุนสร้างร้อยล้านเลยทีเดียว
ดังนั้นก็สามารถสรุปได้อย่างง่ายๆ ว่านิยามของเกมอินดี้นั้น ไม่ว่าตามเทคนิคแล้วคือเกมที่นำเสนอรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งที่หาไม่ได้จากเกมตลาดทั่วไป มันอาจจะเป็นระบบการเล่นที่แปลกใหม่ เพลง Soundtrack ชวนติดหู หรืองานภาพที่สวยงามแค่เปิดดูภาพสิบนาทีก็อิ่มแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเกมจากค่ายไหนแห่งใด ขอแค่ไม่ได้ดูเลิศหรู และคิดราคาแพงพร้อมปั้ม DLC มานับร้อยเป็นพอ
แล้วความหมายของเกมอินดี้สำหรับคุณล่ะ คืออะไร?
Post a Comment